วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

พระปิดตาหลวงพ่อยุ้ยวัดบางกะปิ รุ่น 3


ว่ากันด้วย "พระเครื่อง" พออายุมากขึ้นก็มาพบว่าตัวเองก็เป็นคนชอบดูพระ ชอบอ่านหนังสือพระ ชอบบูชาพระเหมือนกันนะเนี๊ยะ!!  เวลามีโอกาสไปไหว้พระสถานที่ใดก็จะนิยมบูชาพระมาด้วยเสมอ มาวันนี้เหมือนมีอะไรดลใจสักอย่างให้ต้องทำความสะอาดหิ้งพระ ถึงได้พบว่ามีพระเครื่อง พระบูชาเต็มหิ้งไปหมดบางทีก็บูชามาเอง บางทีผู้ใหญ่ให้มา นานเข้าก็ลืมว่าเป็นพระอะไรบ้าง ประวัติความเป็นมาอย่างไร มีพุทธคุณด้านใดบ้าง วันนี้จึงอยากจะลองหาข้อมูลและบันทึกรายละเอียดเก็บไว้อ่านเองในอนาคตจะได้ไม่ต้องมานั่งคิดนานอีก...

องค์แรก (1) พระปิดตาหลวงพ่อยุ้ยวัดบางกะปิ รุ่น 3

 
(ด้านหน้า)

(ด้านหลัง)  

วิธีการได้มา : พระปิดตาองค์แรกที่ได้รับซึ่งเป็นพระของคุณพ่อที่บูชาในหิ้งพระครอบครัวเห็นมาตั้งแต่ผมยังเด็กแต่ไม่เคยสนใจเลย จนโตเป็นวัยรุ่นต้องเดินทางไปเรียนไกลบ้านคุณพ่อจึงให้มาบูชาแต่ก็ไม่ค่อยได้ห้อยบูชาติดตัวเลยเก็บไว้บูชาบนหิ้งพระมาหลายปีแล้วจนถึงทุกวันนี้

ประวัติความเป็นมา :  พระปิดตา วัดบางกะปิ สร้างขึ้นในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา โดยหลวงตายุ้ย  วัดบางกะปิ หรือ วัดอุทัยธาราม ตั้งอยู่ข้างถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เลยสี่แยกอโศกไปเล็กน้อย นับเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งในกรุงเทพมหานคร จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณวัตถุภายในวัดสันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในราวต้นๆ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ วัตถุมงคลของวัดที่สร้างชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ โดยเฉพาะนักเล่นพระและผู้ที่อยู่ในแวดวงนักนิยมสะสมพระเครื่องส่วนใหญ่จะรู้จักเป็นอย่างดี ก็คือ พระกรุเนื้อตะกั่วสนิมแดง รูปทรงสามเหลี่ยม ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ กับพระวัดสามปลื้ม และพระปิดตา ซึ่งมีพุทธคุณยอดเยี่ยมเป็นที่ปรากฏ

พระปิดตา วัดบางกะปิ สร้างขึ้นในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา โดยหลวงตายุ้ย ซึ่งขณะนั้นเป็นพระลูกวัดแก่ๆ ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์ แต่ท่านชอบธุดงควัตรไปตามสถานที่ต่างๆ ไกลถึงประเทศพม่า ซึ่งในสมัยนั้นนับว่าการเดินทางยากลำบากและทุรกันดารมาก ถ้าไม่เก่งจริงๆ คงไปไม่ถึงหรือไม่ได้กลับมาเป็นแน่

หลวงตายุ้ยต้องการมีส่วนช่วยประเทศชาติ ด้วยการสร้าง "พระปิดตา" ขึ้น เพื่อแจกจ่ายแก่ทหารที่ออกรบ โดยรวบรวมเศษทองเหลือง ฝาบาตร ขัน โถเก่าๆ ฯลฯ แล้วนำมาหลอม ลงอักขระเลขยันต์ ปลุกเสกด้วยตัวท่านเองโดยตลอด ซึ่งช่วงเวลาเดียวกันนั้น บรรดาพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคนั้นหลายๆ วัด ก็ได้จัดสร้างวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังเพื่อแจกจ่ายแก่ศิษยานุศิษย์และผู้ออกศึกสงคราม เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวและเป็นกำลังใจให้เชื่อมั่นในพุทธคุณเช่นกัน มีอาทิ หลวงพ่อพริ้ง หลวงพ่อจาด และหลวงพ่อเดิม เป็นต้น

การศึกสงครามในครั้งนั้น นอกจากวัตถุมงคลที่สร้างโดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจะปรากฏพุทธคุณเข้มขลังแล้ว "พระปิดตา วัดบางกะปิ" ของหลวงตายุ้ย ก็ได้สร้างประสบ การณ์ให้เป็นที่ปรากฏในด้านอยู่ยงคงกระพันและแคล้วคลาดจากภยันตรายจนเป็นที่กล่าวขานด้วยเช่นกัน แต่ด้วยพุทธลักษณะขององค์พระไม่ใคร่จะงดงามต้องตานัก จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมสะสมเท่าไรนัก

พระปิดตา วัดบางกะปิ ลักษณะเป็นพระเนื้อทองเหลือง ทรงชะลูด หล่อแบบลอยองค์ หูในตัว พิมพ์ด้านหน้า มีพระหัตถ์ 3 คู่ คู่แรก ปิดพระพักตร์ จะปรากฏนิ้วพระหัตถ์เป็นเส้นอยู่ในที คู่ที่ 2 ยกขึ้นปิดพระกรรณ และ คู่ที่ 3 ปิดทวารช่วงกลางพระเพลา กลางพระอุระมีตัว "อุณาโลม" เป็นเส้นนูน ส่วนพิมพ์ด้านหลังเว้าเป็นทรงตามพระวรกาย ตรงกลางมีอักขระขอมอ่านว่า "อ ร หัง" บนเศียรทำเป็นห่วงกลม ปลายห่วงทั้ง 2 ข้าง มีรอยติดหุ่นเทียนเป็นปากปลิง
ถ้าพิจารณาตามลักษณะการหล่อ พระปิดตา วัดบางกะปิ เป็นการหล่อในแบบ "พิมพ์ประกับ" คือ องค์พระจะมีตะเข็บด้านข้างทั้ง 2 ข้าง และมีรอยตัดชนวนที่ก้นทุกองค์ นอกจากนี้ ให้สังเกตที่เนื้อขององค์พระ ถ้าไม่ผ่านการใช้หรือสัมผัสจะเป็นประกายทองเหลืองอร่าม แต่ถ้าผ่านการใช้หรือสัมผัส เนื้อจะกลับคล้ำลง บางองค์กลับคล้ายสำริดก็มี

พระปิดตา วัดบางกะปิ ยังเป็นพระที่มีสนนราคาค่อนข้างถูกมากๆ เมื่อเทียบกับความเป็นเลิศในพุทธคุณที่ได้รับการพิสูจน์กันมานักต่อนักแล้ว จึงนับได้ว่าเป็นพระที่น่าสะสมมากพิมพ์หนึ่ง


สรุป : หลังจากหาข้อมูลเรียบร้อยทราบทันทีว่าพระองค์นี้พ่อคงได้รับมาในสมัยยังรับราชการทหารสมัยนั้นแน่นอน มิน่าล่ะให้ผมมาบูชาต่อผมเลยติดทหารเหมือนพ่อเลยครับ คงต้องเอาไปเข้ากรอบทองบูชาจริงจังแล้วล่ะองค์นี้..


1 ความคิดเห็น:

  1. รุ่น3ทันหลวงปู่ไมครับหลวงปู่มรณภาพในปีพศ. ใดครับ

    ตอบลบ